
ข้อควรคำนึงถึงการใช้ยาต้านเอชไอวีที่มี Dolutegravir เป็นส่วนประกอบ
ยา Dolutegravir เป็นยาต้านเชื้อเอชไอวี ในกลุ่ม Integrase inhibitor ออกฤทธิ์ยับยั้งกระบวนการรวมรหัสพันธุกรรมของไวรัสเข้ากับรหัสพันธุกรรมของเซลล์เม็ดเลือดขาวในมนุษย์ ( Integrase) ใช้ได้สำหรับ เด็กอายุ 6 ปีขึ้นไป และผู้ใหญ่
ในการต้านเชื้อเอชไอวีจำเป็นต้องใช้ยาหลายตัวผสมกัน ไม่สามารถใช้เพียงตัวเดียวได้ ซึ่ง จะต้องมียาที่ออกฤทธิ์ยับยั้งไวรัสในกลไกที่ต่างกัน ตัวอย่างเช่น
- ยาชนิดที่ออกฤทธิ์ยับยั้งกระบวนการสังเคราะห์รหัสพันธุกรรมของไวรัส
- ยาชนิดที่ออกฤทธิ์ยับยั้งกระบวนการรวมรหัสพันธุกรรมของไวรัสเข้ากับรหัสพันธุกรรมของเซลล์เม็ดเลือดขาวในมนุษย์
- ยับยั้งการประกอบร่างไม่ให้เชื้อไวรัสแบ่งตัว
แนวทางการรักษาและป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีของประเทศไทยปี 2564/2565 แนะนำให้ใช้สูตรยาที่มีหนึ่งในนั้นเป็น Dolutegravir เป็นส่วนประกอบสำหรับทั้งป้องกันเอชไอวี และรักษาผู้มีเชื้อเอชไอวี
- การป้องกันเอชไอวี ใช้ยาที่มี Dolutegravir เป็นส่วนประกอบของยาต้านเอชไอวีฉุกเฉิน ที่เรียกว่ายา PEP (Post-Exposure Prophylaxis) รูปแบบยาเม็ด รับประทานทันทีหลังมีความเสี่ยงภายใน 72 ชั่วโมง
- การใช้เป็นยารักษา ใช้ยาที่มี Dolutegravir เป็นส่วนประกอบในสูตร ต่างๆ
ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ยาที่ใช้ มีหลากหลาย ได้แก่
- ยาสามชนิดแยกเม็ดกัน และต้องรับประทานรวมกัน
- ยาสองชนิดรวมกัน และมีอีกหนึ่งชนิดแยกเม็ดกัน และต้องรับประทานรวมกัน
- ยาสามชนิดรวมกันในเม็ดเดียว
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ของ Dolutegravir ที่มีในประเทศไทย ได้แก่
ข้อควรคำนึงเกี่ยวกับยา Dolutegravir
- หากมีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคตับรุนแรง ไวรัสตับอักเสบ B, ไวรัสตับอักเสบ C, โรคไตรุนแรง ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยา
- หากมีภาวะดื้อยาที่ใช้รักษาการติดเชื้อเอชไอวีชนิดอื่น ควรแจ้งแพทย์ก่อนใช้ยา
- หากมีภาวะซึมเศร้า หรือโรคทางอารมณ์ ควรแจ้งแพทย์ก่อนใช้ยา
- ผู้ป่วยหญิง ควรตรวจการตั้งครรภ์ก่อนใข้ยา Dolutegravir เนื่องจากยานี้อาจส่งผลต่อทารกที่มีอายุครรภ์สามเดือนแรก
- ไม่ควรรับประทานพร้อมวิตามินรวม แคลเซียม แมกนีเซียม อลูมิเนียม สังกะสี เหล็ก ยาลดกรดและนม เนื่องจากอาจมีผลลดการดูดซึม Dolutegravir ได้ ผู้ป่วยที่ต้องการรับประทานวิตามินและแร่ธาตุร่วมด้วย ควรรับไม่ควรรับประทานร่วมกับยาแก้ปวดในกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เนื่องจากอาจทำให้เกิดความเป็นพิษต่อไตมากขึ้น
- ไม่ควรรับประทานร่วมกับยาแก้ปวดในกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น Ibuprofen, Naproxen, Piroxicam, Diclofenac เนื่องจากอาจทำให้เกิดความเป็นพิษต่อไตมากขึ้น
- Dolutegravir อาจส่งผลให้เกิดอาการเวียนศีรษะ จึงควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะ การทำกิจกรรมที่ต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา และการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในระหว่างใช้ยา
- อาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงเช่น เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน นอนไม่หลับ อ่อนเพลีย ซึมเศร้า รู้สึกเป็นกังวล ปวดท้อง ท้องอืด และคันผิวหนัง หากอาการในข้างต้นไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง ผู้ป่วยควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
- หากพบอาการผิดปกติบางอย่างที่มีความรุนแรง ผู้ป่วยควรหยุดใช้ยาแล้วรีบไปพบแพทย์ทันที เช่น
- อาการแพ้ยาเช่น มีไข้ หายใจลำบาก อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อและข้อต่อตามร่างกาย เกิดแผลพุพองหรือผิวหนังลอก เกิดแผลในปาก ดวงตาบวมแดง หรือเกิดอาการบวมบริเวณใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น และลำคอ
- สัญญาณของภาวะไทรอยด์เป็นพิษ(Overactive Thyroid) เช่น กระวนกระวาย รู้สึกเป็นกังวล หัวใจเต้นเร็วและแรง รู้สึกร้อนง่ายผิดปกติ ตาโปน หรือพบคอพอก
แหล่งอ้างอิง
- https://pharmacy.mahidol.ac.th/dic/knowledge_full.php?id=64
- https://www.pobpad.com/